วันอาทิตย์ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2553

เวียนนา นครแห่งเสียงดนตรี



กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย เป็นที่รู้จักกันในนาม“นครแห่งเสียงดนตรี” (The City of Music) ผู้คนที่รู้จักเมืองนี้ต่างเห็นพ้องต้องกันว่า นั่นเป็นฉายาที่เมืองนี้ควรจะได้รับเพราะนับแต่คริสต์ศตวรรษที่ ๑๘ เป็นต้นมา เมืองนี้เป็นบ้านของนักดนตรีชั้นเยี่ยมของโลกหลายคน ไม่ว่าจะเป็น เฮย์ติน (Haydn) โมซาร์ต (Mozart) บีโธเฟน (Beethoven) ชูเบิร์ต (Schubert) บราหมส์ (Brahms) บรักเนอร์ (Bruckner)มาห์เลอร์ (Mahler) นามที่กล่าวมานี้เป็นเพียงตัวอย่างเล็ก ๆน้อย ๆ ของเหล่านักดนตรีพรสวรรค์ที่อาศัยอยู่ ณ กรุงเวียนนา

สาเหตุที่ทำให้เวียนนากลายมาเป็นผู้นำด้านเสียงดนตรีมีหลายประการ ได้แก่ ประการแรก เมืองนี้อยู่กึ่งกลางระหว่างสถานที่หลายแห่งที่ขึ้นชื่อด้านดนตรี เช่น อิตาลี โบฮีเมีย เยอรมนี ฮังการี เวียนนาจึงเป็นที่ดึงดูดนักดนตรีและนักแต่งเพลงจากประเทศต่าง ๆ ที่อยู่รายรอบ เหตุผลประการที่สอง ชาวเมืองเวียนนาเป็นผู้ที่นิยมในเสียงดนตรีเป็นอย่างมาก ผู้คนในเมืองนี้ นับแต่คนรับใช้ไปจนถึงราชวงศ์แฮปสเบิร์ก (Hapsburgh) ผู้ปกครองประเทศ แทบทุกคนในเวียนนาจะร้องเพลงเล่นดนตรีได้ หรืออย่างน้อยที่สุดก็คือเป็นผู้ที่รักและชอบฟังดนตรี ด้วยเหตุนี้เองเวียนนาจึงดึงดูดให้บรรดาครูสอนดนตรีมืออาชีพ นักแต่งเพลง นักดนตรี และผู้คนทุกสาขาอาชีพที่เกี่ยวข้องกับดนตรีหลั่งไหลมาที่นี่ จากบันทึกที่พบ โจเซฟ ริชเตอร์ (Joseph Richter) บรรยายถึงกรุงเวียนนาในปี ค.ศ. ๑๗๙๔ ไว้ว่า ไม่มีสุภาพสตรีชั้นสูงหรือลูกสาวชาวเมืองคนใดที่จะร้องเพลงและเล่นเปียโนไม่ เพราะ

ในศตวรรษที่ ๑๘ ดนตรีเป็นทั้งสิ่งที่ให้ความบันเทิงและเป็นเครื่องบ่งบอกฐานะทางสังคมของคน ชั้นสูงในเวียนนา มีขุนนางชาวเวียนนาหลายคนที่มีชื่อเสียงในฐานะนักแต่งเพลงคลาสิกผู้ยิ่งใหญ่ ในหมู่สามัญชนทั่วไปก็มีโรงละครตามชานเมือง เป็นที่ชุมนุมของผู้ที่รักโอเปรา หรือในฤดูร้อนที่ท้องฟ้าแจ่มใสอากาศดี ก็มีการเล่นคอนเสิร์ตตามสวนสาธารณะ หรือแม้แต่ในโบสถ์ก็มีการแต่งและบรรเลงเพลงที่เกี่ยวกับศาสนาเช่นกัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น