วันอังคารที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

วันสมเด็จพระนารายณ์มหาราช

สมเด็จพระนารายณ์มหาราช พระมหากษัตริย์องค์ที่ ๒๗ ในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย (พ.ศ. ๒๑๗๕ - พ.ศ. ๒๒๓๑ ครองราชย์ พ.ศ. ๒๑๙๙ - พ.ศ. ๒๒๓๑) มีหลายพระนาม คือ สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 3 หรือ สมเด็จพระรามาธิบดีศรีสรรเพชรญ์ เป็นพระราชโอรสของ พระเจ้าปราสาททอง พระมหากษัตริย์ผู้ครองกรุงศรีอยุธยา กับพระราชธิดาของสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม เหตุที่มีพระนามว่า "นารายณ์" มีที่มาน่าสนใจคือ มีพระญาติวงศ์เหลือบเห็นเป็น 4 กร พระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่พระองค์หนึ่งในประวัติศาสตร์ไทย ทรงมีพระราชกรณียกิจที่สำคัญตลอดรัชกาลของพระองค์ ทั้งด้านการทหาร วรรณคดี และการทูต โดยเฉพาะการส่งคณะราชทูต นำโดยเจ้าพระยาโกษาธิบดี (ปาน) ไปเชื่อมสัมพันธไมตรีกับฝรั่งเศส ในรัชสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ ๑๔ แห่งราชวงศ์บูร์บง



พระราชประวัติโดยย่อ

สมเด็จพระนารายณ์มหาราช มีหลายพระนาม คือ สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 3 หรือ สมเด็จพระรามาธิบดีศรีสรรเพชรญ์ เป็นพระราชโอรสของ พระเจ้าปราสาททอง พระมหากษัตริย์ผู้ครองกรุงศรีอยุธยา กับพระราชธิดาของสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม (ไม่ปรากฏชื่อพระมารดา แต่มีปรากฎในหนังสือของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงอ้างใน พงศาวดารเรื่องไทยรบพม่า )

ทรงพระราชสมภพเมื่อวันจันทร์ เดือนยี่ ปี พ.ศ. 2175 ส่วนเหตุที่มีพระนามว่า "นารายณ์" มีที่มาน่าสนใจคือ ( มีอ้างในพงศาวดาร ) มีพระญาติวงศ์เหลือบเห็นเป็น 4 กร สมเด็จพระเจ้าประสาททองตรัสแจ้งความเป็นอัศจรรย์ แล้วก็พระราชทานนามว่า "พระนารายณ์ราชกุมาร"

พระองค์ทรงปราบดาภิเษกเสด็จขึ้นครองราชสมบัติเมื่อ พ.ศ.2199 ต่อมาเมื่อ พ.ศ. 2205 เริ่มมีชาติตะวันตกเข้ามาเผยแพร่ศาสนา ชาติแรกที่เข้ามาคือ ฝรั่งเศส เป็นมิชชันนารี ได้เข้าเฝ้าสมเด็จพระนารายณ์มหาราช สมเด็จพระนารายณ์มหาราชทรงมีประปรีชาสามารถมาก ทรงเล็งเห็นประโยชน์จากชาวต่างชาติจึงทรงเริ่มดำเนินการประสานสัมพันธไมตรีกับฝรั่งเศส

ทรงจัดคณะฑูตนำพระราชสาสน์ไปเจริญสัมพันธ์ไมตรี ณ ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งตรงกับสมัย พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ของฝรั่งเศส พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ทรงตอบรับด้วยเล็งเห็นว่าจะชักชวนสมเด็จพระนารายณ์มหาราชนับถือศาสนาคริสต์ ตามพระองค์ ดังนั้นพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 จึงทรงให้ราชฑูตเข้ามาเจริญสัมพันธไมตรีกับกรุงศรีอยุธยาเมื่อปี พ.ศ. 2228

สมเด็จพระนารายณ์มหาราช ทรงทราบจุดหมายของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ดี แต่เนื่องจากจุดประสงค์ของพระองค์คือการส่งเสริมการค้าขายและความเจริญ ของกรุงศรีอยุธยาเป็นหลัก จึงทรงปฏิเสธด้วยพระปรีชาสามารถอันแยบยลว่า " การที่ผู้ใดจะนับถือศาสนาใดนั้น ย่อมแล้วแต่พระผู้เป็นเจ้าบนสวรรค์จะบันดาลให้เป็นไป ถ้าคริสต์ศาสนาดีจริงแล้ว และเห็นว่าพระองค์สมควรที่จะเข้าเป็นคริสตศาสนิกชนแล้ว สักวันหนึ่งพระองค์จะถูกดลใจให้เข้ารีตจนได้"

พระองค์ ทรงทำให้หัวหน้าราชฑูตของฝรั่งเศสเลื่อมใสในพระปรีชาสามารถของประองค์เป็น อย่างมาก นอกจากพระราชกรณียกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวกับการเมืองการปกครองแล้ว ก็ปรากฏว่าสมเด็จพระนารายณ์ทรงพระปรีชาญาณในศิลปวรรณคดีเป็นอย่างยิ่ง ได้ทรงพระราชนิพนธ์วรรณคดีไว้หลายเรื่อง เท่าที่ทราบกันต่อมาในบัดนี้ มีดังนี้

1.พระราชนิพนธ์โคลง เรื่องทศรถสอนพระราม
2.พระราชนิพนธ์โคลง เรื่องพาลีสอนน้อง
3.พระราชนิพนธ์โคลง เรื่องราชสวัสดิ์
4.สมุทรโฆษคำฉันท์ (ตอนกลาง)
5.คำฉันท์กล่อมช้าง (ของเก่า)
6.บทพระราชนิพนธ์โคลงโต้ตอบกับศรีปราชญ์และกวีมีชื่ออื่นๆ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น