20 ธันวาคม พ.ศ. 2510 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินประกอบพิธีเปิด มหาวิทยาลัยขอนแก่น อย่าง เป็นทางการ มหาวิทยาลัยแห่งนี้เป็นสถาบันอุดมศึกษาแห่งแรกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เริ่มมีการก่อสร้างในรัฐบาล จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เมื่อปี 2507 โดยมีมติจัดตั้งสถาบันการศึกษาชั้นสูงด้านวิศวกรรมศาสตร์ และเกษตรศาสตร์ และเสนอชื่อสถาบันนี้ว่า มหาวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ต่อมาในปี 2508 คณะรัฐมนตรีมีมติให้เปลี่ยนชื่อเป็นมหาวิทยาลัยขอนแก่น ปัจจุบันเปิดสอน 17 คณะ เปิดสอนในระดับปริญญาตรี โท และเอก สีประจำมหาวิทยาลัยคือสีดินแดง ดอกไม้ประจำมหาวิทยาลัยคือดอกกัลปพฤกษ์
วันอาทิตย์ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2552
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินประกอบพิธีเปิด มหาวิทยาลัยขอนแก่น
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินประกอบพิธีเปิด มหาวิทยาลัยขอนแก่น
20 ธันวาคม พ.ศ. 2510 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินประกอบพิธีเปิด มหาวิทยาลัยขอนแก่น อย่าง เป็นทางการ มหาวิทยาลัยแห่งนี้เป็นสถาบันอุดมศึกษาแห่งแรกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เริ่มมีการก่อสร้างในรัฐบาล จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เมื่อปี 2507 โดยมีมติจัดตั้งสถาบันการศึกษาชั้นสูงด้านวิศวกรรมศาสตร์ และเกษตรศาสตร์ และเสนอชื่อสถาบันนี้ว่า มหาวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ต่อมาในปี 2508 คณะรัฐมนตรีมีมติให้เปลี่ยนชื่อเป็นมหาวิทยาลัยขอนแก่น ปัจจุบันเปิดสอน 17 คณะ เปิดสอนในระดับปริญญาตรี โท และเอก สีประจำมหาวิทยาลัยคือสีดินแดง ดอกไม้ประจำมหาวิทยาลัยคือดอกกัลปพฤกษ์
20 ธันวาคม พ.ศ. 2510 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินประกอบพิธีเปิด มหาวิทยาลัยขอนแก่น อย่าง เป็นทางการ มหาวิทยาลัยแห่งนี้เป็นสถาบันอุดมศึกษาแห่งแรกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เริ่มมีการก่อสร้างในรัฐบาล จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เมื่อปี 2507 โดยมีมติจัดตั้งสถาบันการศึกษาชั้นสูงด้านวิศวกรรมศาสตร์ และเกษตรศาสตร์ และเสนอชื่อสถาบันนี้ว่า มหาวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ต่อมาในปี 2508 คณะรัฐมนตรีมีมติให้เปลี่ยนชื่อเป็นมหาวิทยาลัยขอนแก่น ปัจจุบันเปิดสอน 17 คณะ เปิดสอนในระดับปริญญาตรี โท และเอก สีประจำมหาวิทยาลัยคือสีดินแดง ดอกไม้ประจำมหาวิทยาลัยคือดอกกัลปพฤกษ์
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น